TPIPP รับอานิสงส์ COD โรงไฟฟ้า TG 6 และ TG 4 ตั้งเป้าครึ่งปีหลังผลักดันการเติบโตต่อเนื่อง

Economic Industrial

บมจ.ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ หรือ TPIPP ประเมินภาพรวมปริมาณการผลิตและขายไฟฟ้าในไตรมาส 2/61 เพิ่มขึ้นก้าวกระโดดและทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้ง

หลังโรงไฟฟ้า TG 6 และ TG 4 กำลังการผลิตติดตั้งรวม 100 MW เริ่ม COD ให้แก่ กฟผ. ตามสัญญาขายไฟฟ้า (PPA) 90 MW ตั้งแต่ต้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา    ด้านผู้บริหารให้ความมั่นใจจะไม่มีปัญหาขาดแคลนขยะที่นำมาแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงเพื่อใช้ผลิตไฟฟ้า หลังลงทุนขยายโรงคัดแยกขยะและโรงผลิตเชื้อเพลิงจากขยะไว้รองรับ พร้อมตั้งเป้าผลักดันผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง 

นายภัคพล เลี่ยวไพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบัญชีและการเงิน บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP ผู้ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะ (RDF) และโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนทิ้งที่ใหญ่ที่สุดในไทยที่มุ่งเน้นความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประเมินภาพรวมปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตและจำหน่ายได้ในช่วงไตรมาส 2/61 จะเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดเป็นสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้ง เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีนี้ที่มีปริมาณการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 259 ล้านหน่วย ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/61 ที่เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้

โดยปัจจัยความสำเร็จมาจากการบริหารการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับนับตั้งแต่วันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา โรงไฟฟ้าอีก 2 โรง ได้แก่ โรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงจากขยะ 70 MW (TG 6) และโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนทิ้ง 30 MW (TG 4) รวมกำลังการผลิตติดตั้ง 100 MW ได้เริ่มผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์ (COD) ให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยหรือ กฟผ. ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า PPA 90 MW เป็นที่เรียบร้อย โดยบริษัทฯ ได้รับ Adder 3.50 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปีนับจากวันที่เริ่มต้นซื้อขายไฟฟ้า

“แม้ว่าบริษัทฯ มีโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงจากขยะที่ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าแล้วหลายโรง แต่มั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาขาดแคลนขยะที่นำมาใช้แปรรูปเป็นเชื้อเพลิงเพื่อผลิตไฟฟ้า เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาได้ลงทุนขยายโรงคัดแยกขยะและโรงผลิตเชื้อเพลิงจากขยะ (RDF) ในจังหวัดต่าง ๆ ไว้รองรับ ได้แก่ โรงผลิตเชื้อเพลิง RDF ที่อำเภอนาดี จังหวัดสมุทรสาคร อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และที่จังหวัดระยอง ซึ่งเริ่มการผลิตเป็นที่เรียบร้อย และยังมีโรงคัดแยกขยะในจังหวัดต่าง ๆ เช่น กาญจนบุรี นครราชสีมา ระยอง อีกด้วย” นายภัคพล กล่าว

นายภากร เลี่ยวไพรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ TPIPP กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทฯ มีโรงไฟฟ้าที่ COD แล้วทั้งสิ้น 6 โรง มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 220 MW โดยตั้งเป้าว่าในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้จะสามารถผลักดันผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการ COD โรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงจากขยะ TG 6 และโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนทิ้ง TG 4 ที่ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ กฟผ. ในปัจจุบัน และการทยอย COD โรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงจากขยะ-ถ่านหิน 70MW (TG 7) และโรงไฟฟ้าถ่านหิน 150 MW (TG 8) ที่ได้รับการอนุมัติรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) และเปิดรับฟังความคิดเห็นจากชุมชนโดยรอบโรงงานเป็นที่เรียบร้อย โดยขั้นตอนต่อไปจะดำเนินการสรุปรายงานและเสนอต่อคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เพื่อขอออกใบอนุญาตโรงไฟฟ้าต่อไป ซึ่งโรงไฟฟ้าทั้ง 2 โรงดังกล่าวจะผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่บริษัทแม่ (บมจ.ทีพีไอ โพลีน) ในราคาเดียวกับที่ต้องซื้อจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อนำไปใช้ในกระบวนการผลิตปูนซีเมนต์

 

Tagged