โดย อภิพงษ์ คุณากรบดินทร์
หลายคนอาจสนใจประเด็นนี้ ที่ผมยกขึ้นมาเพราะเหตุการณ์ที่ล่วงเลยมาถึงวันนี้ทำให้ผมนึกถึงเรื่องราวก่อนหน้าและเริ่มต้นการเกิดการระบาดโควิด-19 ในจีนมาวิเคราะห์กับเหตุการณ์จริงในวันนี้ ผมขอขยายความดังนี้ครับ จากการที่จีนเกิดโควิดในช่วงแรกทุกคนมองว่าจีนมีปัญหาอย่างรุนแรงที่การปกปิดข่าวสารข้อมูลการใช้อำนาจและการละเลยต่อการป้องกันโรค และจะส่งผลให้เศรษฐกิจจีนเสียหายหนักหนามากกว่าการที่ถูกอเมริกากีดกันทางการค้า แต่เมื่อเหตุการณ์มาถึงปัจจุบันการเกิดการระบาดไวรัสที่แพร่กระจายกันทั้งโลกกลับพลิกผันเหตุการณ์ไปอีกลักษณะหนึ่ง(ซึ่งผมจะไม่ใช้ว่าตรงกันข้ามเพราะอย่างไรจีนก็ยังเสียหายมากเช่นกัน) แต่เมื่อมีการประเมินว่าGDPไตรมาสแรกจะ-12 แต่เมื่อผลออกมาไตรมาสที่1 GDP -6.8 ซึ่งดีกว่าที่คิดไว้5.2 ทำให้เป็นสิ่งที่ผมใช้คำพูดนี้
“จีนโชคดีบนความโชคร้ายของวิกฤติไวรัสโควิท-19” ส่วนตัว ผมวิเคราะห์เป็น ดังนี้
- โชคดีที่…..ช่วงเกิดโรคระบาดของไวรัสในจีน เริ่มระบาดหนักและประกาศปิดเมืองเป็นช่วงที่เกิดขึ้นก่อนตรุษจีน 2-3วัน ถ้าสมัยโบราณบอกว่าไม่ดีเพราะกำลังเป็นช่วงแห่งเทศกาลทุกคนกำลังจะมีความสุข ซึ่งก่อนหน้าจะถึงเทศกาลนี้บริษัทฯการผลิตจีนทุกบริษัทจะเตรียมตัวสินค้าไว้ก่อนหน้าหรือหยุดรับออเดอร์เพราะรู้ว่าต้องหยุดยาว หรือในบางประเภทก็มีการสำรองสินค้าไว้พอเพียงต่อธุรกิจไว้แล้ว พวกเรารู้ว่าก่อนหน้าตรุษจีน 2 อาทิตย์และหลังตรุษจีน 2 อาทิตย์งานกิจกรรมต่างๆไม่ควรจัดในช่วงนี้ เมื่อประกาศปิดเมือง ทำให้ผลเสียที่กระทบต่อการปิดเมืองหรือต้องWFH ของจีนน้อยลง เพราะมีช่วงเวลาที่ไปคาบเกี่ยวกับเวลาที่คิดว่าจะเริ่มงานน้อยลงถึงแม้จะหยุดไปเป็นเวลาร่วม1 เดือนแต่บางกิจกรรมก็ทำต่อโดยไม่หยุด และบางกิจกรรมก็สามารถสลับและเปิดเป็นขั้นเป็นตอนโดยที่กระทบต่อการอุตสากรรมการผลิตสั้นลง
- โชคดีที่…..ช่วงเวลาการเกิดระบาดไวรัสเกิดขึ้นก่อนช่วงเทศการตรุษจีนประมาณ2อาทิตย์ ขณะที่ช่วงตรุษจีนเป็นเวลาที่คนส่วนใหญ่เตรียมตัวไปจับจ่ายใช้สอยและท่องเที่ยว การเดินทางไปต่างประเทศหลังจากวันตรุษจีน1วัน(初一)และเดินทางไปที่ละหลายวันได้รับความนิยมมาก ส่วนการท่องเที่ยวในประเทศก็มีผู้คนแออัดมากและราคาแพงจึงนิยมเที่ยวต่างประเทศ เมื่อเกิดโควิดก่อนตรุษจีนจึงเป็นการหยุดที่ไม่มีการรวมกลุ่มการเดินทางอย่างหนาแน่นการจึงรอดจากการระบาดที่รุนแรงทั่วประเทศไปเกิดขึ้นที่มณฑลหูเป่ย(อู่ฮั่น)เป็นหลัก จีนไม่ได้เป็นประเทศที่อาศัยรายได้จากการท่องเที่ยวในการหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจในประเทศ การหยุดปิดเมืองและหยุดการท่องเที่ยวไม่ได้จึงไม่ได้กระทบต่อภาพรายได้จากส่วนการท่องเที่ยวนักหรือมีผลกระทบต่อประชาชนส่วนนี้น้อยกว่า ไม่เหมือนประเทศไทย!
- โชคดีที่…ช่วงตรุษจีนนอกจากจะมีเวลาท่องเที่ยวแล้วสำหรับลูกจ้างหรือคนมีรายได้น้อยไม่มีโอกาสไปต่างประเทศทุกคนจะกลับไปที่บ้านเกิดเพื่อพบกับพ่อแม่เพื่อนำรายได้ที่หาได้ทั้งปีกลับไปใช้อย่างสุขสำราญที่บ้าน ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าโชคดี 2 ต่อ คือทุกคนมีเงินสดสำรองในกระเป๋ากลับบ้านสามารถใช้จ่ายไม่โกลาหลเรื่องเงินทองถึงแม้จะหยุดอยู่เป็นเดือนหรือ2เดือน ก็อยู่ได้อีกทั้งยังได้อยู่กับครอบครัวแม้ถุกกักอยู่ในบ้านซึ่งปกติทุกปีก็กลับบ้านด้วยเหตุผลต้องการไปพบญาติพีน้องพร้อมหน้าพร้อมตา ที่ผมบอกว่าโชคดี2เด้ง คือทั้งประหยัดเงินและไม่รู้สึกเครียด ของคนส่วนใหญ่
- โขคดีที่…จีนพัฒนาเทคโนโลยี่ดิจิตัลได้ดี….ช่วงการระบาดโควิดเป็นช่วงที่จีนนำเทคโนโลยี่ดิจิตอลมาใช้ได้ผลมากที่สุด เรียกได้ว่าจีนเป็นผู้นำด้านการใช้จ่ายเงินทางแอปที่แพร่หลายที่สุดประชาชนสามารถเข้าถึงและปรับตัวกับเทคโนโลยี่นี้อย่างทั่วถึงเกือบทั้งประเทศแม้กระทั่งชนบท ทำให้การจัดการ การควบคุม และการสื่อสารกับประชาชนจำนวนมากทั่วประเทศได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าเรื่องการติดต่อสื่อสารโดยโซเชี่ยล การซื้อขายออนไลน์ การธนาคาร การผลิต การศึกษา การขนส่ง การแพทย์รวมทั้งงานบริการต่างๆ หลายด้านได้ประโยชน์ลดความสับสนทางการจัดการหมู่มาก รวดเร็ว แม่นยำ
- โชคดีที่…ของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของจีนบางกลุ่มที่มีโอกาสเกิดใหม่โดยเฉพาะชิ้นส่วนและเครื่องมือแพทย์อุตสาหกรรม จีนได้ใช้โอกาสนี้แสดงศักยภาพทางเทคโนโลยี่เช่น ดิจิตัล AI การแพทย์ และปรับตัวปรับปรุงโครงใหม่ บางธุรกิจที่ถูกระทบแต่ถูกช่วยเหลือและค้ำจุนมาโดยรัฐบาล ปัจจุบันต้องปรับตามความเป็นจริง เช่น อสังหาริมทรัพย์ โดยทุกฝ่ายยอมรับสภาพ
- โชคดีที่…ทำให้จีนมีโอกาสได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของชาวจีนที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ประชาชนได้ปรับตัวจากวิกฤติได้เรียนรู้วิกฤตอย่างถ้วนทั่วทั้งประเทศการถ่มน้ำลาย การรัประทานอาหาร การเลี้ยงดื่มเหล้าฉลองแบบเมาแล้วต้องอาเจียน ที่เกิดขึ้นจนเป็นความเคยชินในอดีตได้ถูกการห้ามโดยไวรัสที่ทุกคนพร้อมปฏิบัติตามโดยปราศจากการโต้แย้ง และทุกวันนี้ผมเห็นประชาชนในหัวเมืองใหญ่ทุกเมืองจะเกิดความเคยชินในพฤติกรรมใหม่อีกหลายอย่างในชีวิตประจำวัน หรือที่เรียกว่า NEW Normal เกิดขึ้นแล้ว และทุกคนมีต้องผ่านไปให้ได้ พวกเขาปรับตัวใหม่ได้โดยไม่คาดคิดครับ
- โชคดีที่…จีนมีรัฐบาลจีนชุดปัจจุบันที่ได้รับความเชื่อถือจากประชาชน รัฐบาลจีนได้แสดงศักยภาพเตรียมพร้อมกับวิกฤตที่จีนไม่เคยเจอมาก่อนเป็นประโยชน์ในการจัดการกับวิกฤติที่จะเกิดขึ้นในอนาคต(ถ้ามี) ต้องยอมรับว่าวิกฤตครั้งนี้รัฐบาลใช้เงินทุนมหาศาลแบบไม่อั้นเพื่อให้ควบคุมโรคระบาดได้เรียกว่าได้ใช้เงินที่เก็บสะสมมาได้เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ซึ่งประเด็นนี้จะทำให้พรรคคอมมิวนิสต์ในประเทศได้รับความนิยมจากประชาชนมากขึ้น
- ข้อท้ายในความคิดนี้ของผม จะถือว่าเป็นความโชคดีได้หรือไม่ที่ว่าขณะที่จีนกำลังจะหยุดการระบาดของโควิด-19 ขณะที่ทุกประเทศในยุโรปและอเมริกาได้เกิดการระบาดขึ้นอย่างหนัก ทำให้เศรษฐกิจของจีนที่เคยถูกอเมริกายุโรปกดดันกลับต้องหันมาพึ่งการผลิตชิ้นส่วนและสินค้าขาดแคลนจากจีนที่กำลังกลับมาเดินเครื่องการผลิตเต็มที่
จากเหตุผลที่ความโชคดีของจีนบนความโชคร้ายของการระบาดไวรัสในครั้งนี้ทำให้ผมเชื่อว่า การคาดคะเน GDPไตรมาทแรกของจีนว่า ติดลบที่ -12 จึงกลับลดลงเหลือเพียง -6.8 และหลังจากนี้จีนน่าจะผลักดันให้ GDP ไม่ติดลบมากไปเหมือนประเทศอื่นๆ ทั้งหมดนี้เราไม่อาจเปรียบเทียบได้กับประเทศอื่นๆ จีนก็คือจีน แต่อย่างไรเศรษฐกิจก็ยังคงต้องอาศัยเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศอื่นๆด้วยจึงจะสามารถเติบโตอย่างมีความสุข
ที่ผมเขียนมาทั้งหมดผมไม่ได้นั่งเทียนเขียนครับ เพราะผมมีโต๊ะคอมพิวเตอร์และนั่งพิมพ์ครับ โชคดีทุกท่าน
